Bhavana Homestays บ้านภาวนา

About Me

Background: This story is how events in my life led me to create the Baan Bhavana facility and its importance in many lives.

During 1998 the Tom Yam Kung economy crisis in Thailand was caused by monetary indiscipline. It was at this time I thought that I needed to develop and educate myself for a better qualification so that I could survive in this more complicated world. In 1999 I undertook a two-year course, an MBA. I hoped that I could gain the business knowledge and improve my working ability and life skills. I graduated with an MBA in 2001 and secured a respected job in an international firm, but I was not happy as I expected.

During 2001 my wife insisted I attend a 7-day Vipassana (Insight Meditation) course. The course changed me; I quit smoking and drinking and I learnt the nature of the truth and saw things in a new light. Since then I have been practicing insight meditation and try to use the Buddhist theory of mindfulness whenever I can. I realized that the MBA helped me secure employment to make a living, but it did not teach me the art of living in the spiritual world. I am now continuing to practice insight meditation and seeing the happenings of the world as phenomena of nature.


  
In 2007, my wife had an operation and she suffered considerably from the medical treatments. She is a Catholic, but has been learning and practicing Vipassana (Insight Meditation) daily. Because of this she has handled the pain well and dealt with the suffering in a very calm manner. During my wife’s hospitalization I learnt that the illness is caused by the modern ways of living and our lifestyles. I also learnt that city lifestyle is not good for our health. It was a fortunate that my brother in law shared part of his beautiful piece of land and I was able to build a vacation home at Khao Yai, where the world heritage Khao Yai National Park is located. According to the NASA ozone map, this area is ranked no. 7 in the world for the high content of oxygen.

In 2008, the sub-Prime crisis caused an economic downturn in the US. After the Yellow Shirt protests at the Suvarnabhumi Airport in December 2008, I was asked to leave the company. This did not upset me as I knew that I would leave the company sooner or later. I was lucky that I’d learnt and understood the nature of truth; I accepted this change with calmness. I thought it was positive that I was out of a job because I now had the time to build a family vacation home at Khao Yai. Therefore, I sold my house in Bangkok and build a vacation home in Khao Yai in mid 2009.



About Baan Bhavana:
Bhavana is a Pali and Sanskrit word which literally means development, becoming cultivated and productive within the concept of Buddhist practice. The word Bhavana normally appears in conjunction with another word forming a compound phrase such as Citta-Bhavana (the development or cultivation of the heart/mind). At Bhavana Home-Stays we like to develop and practice mindfulness and insight meditation. The retreat was built to accommodate our lifestyles and daily activities include morning/evening chanting, insight meditation, Cankama (walking meditation), reading Buddhist books, cooking healthy food, and exercising.



We enjoy the nature and wish to live peacefully for the rest of our lives. This is a “Sappaya” (favorable) place for meditation practicing or just relaxes and enjoys clean air and beautiful nature. This will be the place for me to stay and practice meditation after I retire from work and enjoy a fruitful and fulfilling life. I am grateful to be fulfilling my dream. This will be the place for me to stay and practice meditation after I retire from work and enjoy a fruitful and fulfilling life.  I am grateful to be fulfilling my dream and would like to share the facilities to whom have similar interests.


For the meditator
Today you have free accommodation and food from the kindest donation from others.  And to give other people the same opportunity, you are invited to donate by faith.

For reservation, please contact:
Khun Mee: 081.646.3590 
Khun Doe: 093.124.5945
v.songjarone@gmail.com
c.songjaroen@gmail.com



เบื่องหลังของบ้านภาวนา
ในช่วงระหว่างปลายปี 2540 ถึงต้นปี 2541 ได้เกิดปรากฏการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ (ต้มยำกุ้ง)ในประเทศ ไทย อันเกิดจากการไม่มีวินัยในการเงินของทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ทำความเสียหายให้ทั้งกับระบบเศษฐกิจของประเทศไทยตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ เหตุการณ์นี้ทำให้ผมสำนึกและฉุกคิดได้ว่าผมควรที่จะศึกษาและพัฒนาตน เองให้มีคุณสมบัติที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ มีความรู้ความสามารถในการทำมาหากิน มีชีวิตอยู่รอดอย่างสุขสบายในโลกไร้พรมแดนที่ซับซ้อนแข่งขันสูง ในปีเดียวกันนั้นผมจึงเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต

และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับความรู้ทางด้านธุรกิจเพื่อที่จะได้พัฒณาตนเองให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการขององค์กร ตลอดจนภาคธุรกิจที่ผมทำงานอยุ่ ผมสำเร็จการศึกษาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตในปี 2543 หลังจากนั้นผมได้เข้าทำงานพร้อมข้อเสนอที่ดีจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ จากตำแหน่งหน้าที่การงานและผลงานดีของผมทำให้ผมเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการธุรกิจที่ผมทำอยู่ แต่ตัวผมมิได้หลงระเริงและยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคมเพราะลึกๆแล้วผมทราบมาตลอดว่าทุกอย่างไม่เที่ยง และผมก็ไม่ได้มีความสุขมากมายเท่าไหร่นัก เพราะผมต้องทำงานหนักและไม่มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากนัก

การที่ผมเป็นคนต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกอย่างในทุกด้าน (Perfectionist) ทำให้ผมเป็นคนเจ้าระเบียบ การวางแผนอย่างรอบคอบ และให้ความคาดหวังกับความสำเร็จสูง ทำให้ผมมีความลำบากในการร่วมงานและใช้ชีวิตกับคนรอบข้างที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่วางแผน แต่ผมก็จะไม่แสดงความไม่พอใจออกมาแต่จะเก็บไว้ในใจตลอด ซึ่งบ่อยครั้งทำให้ผมเกิดความเครียดจากการทำงาน ในปลายปี 2543 ภรรยาของผมซึ่งเป็นคาทอลิกได้ขอร้องแกมบังคับให้ผมเข้าอบรมปฏิบัติธรรมในหลังสูตรพัฒนาจิตเป็นเวลา 8 วัน 7 คืน ซึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าปฏิบัติธรรมมาก่อน

เธอบอกผมซึ่งเป็นชาวพุทธโดยกำเนิด ว่าการทำบุญรักษาศีลอย่างเดียวไม่พอต้องเจริญสติด้วย ผมยอมไปเพราะกลัวเสียหน้าการเป็นชาวพุทธประกอบกับได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีของเธอหลังจากการปฏิบัติธรรมของเธอ เธอใจเย็นและมีเหตุผลมากขึ้นทำให้ครอบครัวมีความสุขขึ้น หลังจากการอบรมในครั้งนี้ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเช่นกัน ทัศนะคติในการใช้ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี

ผมเลิกสูบบุหรี่และเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผมตั้งสัจจะว่าจะดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทและรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด ผมได้เรียนรู้และเข้าใจธรรมะหรือกฏของธรรมชาติแห่งความเป็นจริงในโลกนี้หลายประการ เช่น กฏแห่งกรรมคือการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว การกระทำของเราทุกอย่างล้วนกระทบต่อกายและใจและกระทบโลกด้วย และกฏแห่งการเปลี่ยนแปลง คือธรรมทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยงเพราะเกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นทุกข์เพราะถูกบีบคั้น ไม่ใช่ตัวตนเพราะบังคับไม่ได้ หลังจากนั้นผมโชคดีได้มีโอกาสศึกษาธรรมะกับครูบาอาจารย์ที่สอนกรรมฐานที่ตรงกับจริตของผมทำให้ผมสามารถเจริญสตินอกรูปแบบในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติและมีความสุขในการอยุ่กับทุกข์ ยอมรับความไม่เที่ยง ความเปลี่ยนแปลงอย่างมีความสุข เข้าใจว่าทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นของชั่วคราวและยึดถือไม่ได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมตั้งใจเพียรเจริญสติภาวนา เพื่อที่จะให้จิตเกิดปัญญาที่แท้จริงจนจิตเห็นและยอมรับความเป็นจริงของธรรมชาติโดยสดุดี

ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับการเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่เนืองๆ มากกว่าการมีความสุขจากความสำเร็จในหน้าที่การทำงาน ผมตระหนักดีว่าปริญญามหาบัณฑิตช่วยให้ผมได้ทำงานที่ดี มีรายได้สูงแต่ไม่ได้สอนให้ผมมีศิลปะในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความทุกข์และความเปลี่ยนแปลง ส่วนการศึกษาและการปฏิบัติธรรมช่วยให้ผมรู้เท่าทันและอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข ผมปฏิญาณตนว่าจะตั้งใจเพียรภาวนาปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชาและอาจาริยบูชาต่อพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ไปตลอดชีวิต



ในปี 2550 ครอบครัวเราได้เจอกับบททดสอบที่สำคัญ ภรรยาของผมไม่สบายต้องเข้ารับการผ่าตัดทำให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ผมประหลาดใจและยินดีมากที่เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการทำใจและยอมรับความทุกข์ทางกาย แต่ทางใจนั้นเธอมีสติอยู่กับความทุกข์ทางกายอย่างสงบ เธอยอมรับว่าเธอโชคดีมากๆที่ได้รับการศึกษาและปฏิบัติธรรมมาก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรามั่นใจในการปฏิบัติธรรมมากขึ้นนอกจากนั้นเราได้เรียนรู้ว่าโรคมะเร็งและอีกหลายโรคเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องของเราโดยเฉพาะชาวเมืองใหญ่ๆ


เราทำร้ายตัวเองจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในเมือง จากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อน จากการมุ่งแต่ความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน แต่เราลืมให้ความสำคัญทางจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายนี้ พี่ชายของภรรยาผมได้มอบที่ดินผืนสวยบนเนินเขา ตรงกันข้ามกับเขาใหญ่ให้เราได้สร้างบ้านเอาไว้พักผ่อนในวันหยุด ที่ดินผืนนี้อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นมรดกโลก และองค์การนาซ่าได้จัดอันดับว่าเป็นแหล่งที่มีโอโซนหนาแน่นเป็นอันดับ 7 ของโลก



ต่อมาในปี2551ได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์ เกอร์ที่เกิดจากธุรกิจซับไพร์มที่สหรัฐอเมริกา ประ กอบกับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลืองและการปิดสนามบินสุวรรณภูมิในเดือน ธันวาคมทำให้เศรษฐกิจในประเทศไทยตกต่ำและกระทบกับภาคธุรกิจอย่างที่สุดบริษัทที่ผมทำงาน อยู่ได้ขอให้ผมออกจากงานโดยไม่มีการบอก กล่าวล่วงหน้าซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผมประหลาดใจ ผิดหวังและเสียใจมากนักเพราะผมทราบดีว่าทุกอย่างไม่เที่ยง และผมก็ต้องออกจากงานอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว ผมโชคดีมากที่มีโอกาสเรียนรู้ ศึกษาและเข้าใจธรรมะ เข้าใจความจริงของธรรมชาติ ทำให้ผมยอมรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติและสงบ


ในเย็นวันเดียวกันนั้นภรรยาผมโทรมาบอกผมว่าที่ทำงานเธอก็มีปัญหาเช่นกันเจ้านายเธอให้เธอเลือกระหว่างเปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนงาน (คือการออกไปหางานใหม่เอง)ทำให้ผมอดขำและหัวเราะออกมาไม่ได้ ผมบอกเธอว่าเธอโชคดีมากที่ยังมีโอกาสได้เลือกส่วนผมไม่มีตัวเลือกเพราะต้องออกสถานเดียวทำให้เราสองคนหัวเราะกันใหญ่จากการเห็นความไม่เที่ยงท้ามกลางความประหลาดใจของคนที่รู้ข่าวนี้ ทุกคนเสียใจกับเราแต่ผมกลับคิดมันในแง่บวกว่า ดีซะอีกที่ผมตกงานจะได้มีเวลาสร้างบ้านตากอากาศที่เขาใหญ่ ผมจึงตัดสินใจใช้เงินจากการขายบ้านชานเมืองใน กรุงเทพ มาเป็นค่าสร้างบ้านพักผ่อนที่เขาใหญ่

เกี่ยวกับบ้านภาวนา
ภาวนาเป็นคำบาลีและสันสกฤตซึ่งมีความหมายทางพุทธศาสนาว่าการพัฒนาหรือการทำให้เกิดประสิทธิผล ปกติจะใช้เชื่อมต่อกับคำอื่นเช่น จิตตะภาวนา คือการพัฒนาจิต เป็นต้น บ้านภาวนาได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกิจวัตรประจำวันของครอบครัวเรา เช่น การไหว้พระสวดมนต์ การเดินจงกรม การออกกำลังกาย (โยคะ/ไท้เก๊ก) อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะบรรยาย ทำสวนพผักปลอดสารพิษเป็นต้น บ้านภาวนาจะเป็นสถานที่อยู่อาศัยสำหรับผมในบั้นปลายของชีวิต ผมมีความสุขกับบ้านนี้มากเพราะอากาศดี วิวสวย ธรรมชาติสมบรูณ์


ครูบาอาจารย์สอนผมว่าเมื่อเราภาวนาในสถานที่สัปปายะ เราก็จะมีความสุข จิตเราก็จะเป็นกุศลทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติธรรมของเรา บ้านภาวนาจึงเป็นสถานที่ที่สับปายะสำหรับการภาวนาของเรา เรารู้สึกขอบคุณและดีใจที่ได้ปฏิบัติตามความฝันของเราและต้องการแบ่งปันสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีความสนใจเหมือนเรา





สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม
วันนี้คุณได้ที่พักและอาหารจากน้ำใจผู้อื่น และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ที่พักและอาหารฟรีบ้าง ขอเชิญคุณบริจาคตามกำลังศรัทธา อนุโมทนาสาธุ 

For reservation, please contact:
คุณหมี:081.646.3590
คุณโด่  093.124.5945
v.songjarone@gmail.com
c.songjaroen@gmail.com