เบื่องหลังบ้านภาวนา
ในช่วงระหว่างปลายปี 2540 ถึงต้นปี 2541
ได้เกิดปรากฏการณ์วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในประเทศไทย
อันเกิดจากการไม่มีวินัยในการเงินของทั้งภาครัฐและเอกชน
ได้ทำความเสียหายให้ทั้งกับระบบเศษฐกิจของประเทศไทยตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมสำนึกและฉุกคิดได้ว่าผมควรที่จะศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
มีความรู้ความสามารถในการทำมาหากิน มีชีวิตอยู่รอดอย่างสุขสบายในโลกไร้พรมแดนที่ซับซ้อนแข่งขันสูง
ในปีเดียวกันนั้นผมจึงเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาโท
หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสำหรับนักบริหาร
และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับความรู้ทางด้านธุรกิจเพื่อที่จะได้พัฒณาตนเองให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการขององค์กร
ตลอดจนภาคธุรกิจที่ผมทำงานอยุ่ ผมสำเร็จการศึกษาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตในปี 2543
หลังจากนั้นผมได้เข้าทำงานพร้อมข้อเสนอที่ดีจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ
จากตำแหน่งหน้าที่การงานและผลงานดีของผมทำให้ผมเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการธุรกิจที่ผมทำอยู่
แต่ตัวผมมิได้หลงระเริงและยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
หน้าตาทางสังคมเพราะลึกๆแล้วผมทราบมาตลอดว่าทุกอย่างไม่เที่ยง
และผมก็ไม่ได้มีความสุขมากมายเท่าไหร่นัก
เพราะผมต้องทำงานหนักและไม่มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากนัก
การที่ผมเป็นคนต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกอย่างในทุกด้าน (Perfectionist) ทำให้ผมเป็นคนเจ้าระเบียบ การวางแผนอย่างรอบคอบ
และให้ความคาดหวังกับความสำเร็จสูง
ทำให้ผมมีความลำบากในการร่วมงานและใช้ชีวิตกับคนรอบข้างที่ไม่มีความรับผิดชอบ
ไม่วางแผน แต่ผมก็จะไม่แสดงความไม่พอใจออกมาแต่จะเก็บไว้ในใจตลอด
ซึ่งบ่อยครั้งทำให้ผมเกิดความเครียดจากการทำงาน ในปลายปี 2543
ภรรยาของผมซึ่งเป็นคาทอลิกได้ขอร้องแกมบังคับให้ผมเข้าอบรมปฏิบัติธรรมในหลังสูตรพัฒนาจิตเป็นเวลา
8 วัน 7 คืน
ซึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าปฏิบัติธรรมมาก่อน เธอบอกผมซึ่งเป็นชาวพุทธโดยกำเนิด
ว่าการทำบุญรักษาศีลอย่างเดียวไม่พอต้องเจริญสติด้วย
ผมยอมไปเพราะกลัวเสียหน้าการเป็นชาวพุทธประกอบกับได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีของเธอหลังจากการปฏิบัติธรรมของเธอ
เธอใจเย็นและมีเหตุผลมากขึ้นทำให้ครอบครัวมีความสุขขึ้น หลังจากการอบรมในครั้งนี้ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเช่นกัน
ทัศนะคติในการใช้ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี
ผมเลิกสูบบุหรี่และเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ผมตั้งสัจจะว่าจะดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทและรักษาศีล 5
อย่างเคร่งครัด
ผมได้เรียนรู้และเข้าใจธรรมะหรือกฏของธรรมชาติแห่งความเป็นจริงในโลกนี้หลายประการ
เช่น กฏแห่งกรรมคือการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
การกระทำของเราทุกอย่างล้วนกระทบต่อกายและใจและกระทบโลกด้วย
และกฏแห่งการเปลี่ยนแปลง
คือธรรมทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยงเพราะเกิดขึ้นแล้วดับไป
เป็นทุกข์เพราะถูกบีบคั้น ไม่ใช่ตัวตนเพราะบังคับไม่ได้
หลังจากนั้นผมโชคดีได้มีโอกาสศึกษาธรรมะกับครูบาอาจารย์ที่สอนกรรมฐานที่ตรงกับจริตของผมทำให้ผมสามารถเจริญสตินอกรูปแบบในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติและมีความสุขในการอยุ่กับทุกข์
ยอมรับความไม่เที่ยง ความเปลี่ยนแปลงอย่างมีความสุข
เข้าใจว่าทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นของชั่วคราวและยึดถือไม่ได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ผมตั้งใจเพียรเจริญสติภาวนา
เพื่อที่จะให้จิตเกิดปัญญาที่แท้จริงจนจิตเห็นและยอมรับความเป็นจริงของธรรมชาติโดยสดุดี
ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับการเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่เนืองๆ
มากกว่าการมีความสุขจากความสำเร็จในหน้าที่การทำงาน ผมตระหนักดีว่าปริญญามหาบัณฑิตช่วยให้ผมได้ทำงานที่ดี
มีรายได้สูงแต่ไม่ได้สอนให้ผมมีศิลปะในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความทุกข์และความเปลี่ยนแปลง
ส่วนการศึกษาและการปฏิบัติธรรมช่วยให้ผมรู้เท่าทันและอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข
ผมปฏิญาณตนว่าจะตั้งใจเพียรภาวนาปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชาและอาจาริยบูชาต่อพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ไปตลอดชีวิต
ในปี 2550 ครอบครัวเราได้เจอกับบททดสอบที่สำคัญ ภรรยาของผมไม่สบายต้องเข้ารับการผ่าตัดทำให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
ผมประหลาดใจและยินดีมากที่เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการทำใจและยอมรับความทุกข์ทางกาย
แต่ทางใจนั้นเธอมีสติอยู่กับความทุกข์ทางกายอย่างสงบ
เธอยอมรับว่าเธอโชคดีมากๆที่ได้รับการศึกษาและปฏิบัติธรรมมาก่อน
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรามั่นใจในการปฏิบัติธรรมมากขึ้นนอกจากนั้นเราได้เรียนรู้ว่าโรคต่างๆโดยเฉพาะโรคมะเร็งเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องของเราโดยเฉพาะชาวเมืองใหญ่ๆ
เราทำร้ายตัวเองจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในเมือง จากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ
จากการมุ่งแต่ความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน
แต่เราลืมให้ความสำคัญทางจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง
แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายนี้
พี่ชายของภรรยาผมได้มอบที่ดินผืนสวยบนเนินเขา
ตรงกันข้ามกับเขาใหญ่ให้เราได้สร้างบ้านเอาไว้พักผ่อนในวันหยุด ที่ดินผืนนี้อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นมรดกโลก
และองค์การนาซ่าได้จัดอันดับว่าเป็นแหล่งที่มีโอโซนหนาแน่นเป็นอันดับ 7 ของโลก
ต่อมาในปี 2551ได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ที่เกิดจากธุรกิจซับไพร์มที่สหรัฐอเมริกา
ประกอบกับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลือง
และการปิดสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนธันวาคม
ทำให้เศรษฐกิจในประเทศไทยตกต่ำและกระทบกับภาคธุรกิจอย่างที่สุด
บริษัทที่ผมทำงานอยู่ได้ขอให้ผมออกจากงานโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผมประหลาดใจ ผิดหวังและเสียใจมากนักเพราะผมทราบดีว่าทุกอย่างไม่เที่ยง
และผมก็ต้องออกจากงานอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว ผมโชคดีมากที่มีโอกาสเรียนรู้
ศึกษาและเข้าใจธรรมะ เข้าใจความจริงของธรรมชาติ
ทำให้ผมยอมรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติและสงบ
ในเย็นวันเดียวกันนั้นภรรยาผมโทรมาบอกผมว่าที่ทำงานเธอก็มีปัญหาเช่นกันเจ้านายเธอให้เธอเลือกระหว่างเปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนงาน
(คือการออกไปหางานใหม่เอง)
ทำให้ผมอดขำและหัวเราะออกมาไม่ได้
ผมบอกเธอว่าเธอโชคดีมากที่ยังมีโอกาสได้เลือกส่วนผมไม่มีตัวเลือกเพราะต้องออกสถานเดียว
ทำให้เราสองคนหัวเราะกันใหญ่จากการเห็นความไม่เที่ยงท้ามกลางความประหลาดใจของคนที่รู้ข่าวนี้
ทุกคนเสียใจกับเราแต่ผมกลับคิดมันในแง่บวกว่า
ดีซะอีกที่ผมตกงานจะได้มีเวลาสร้างบ้านตากอากาศที่เขาใหญ่
ผมจึงตัดสินใจใช้เงินจากการขายบ้านที่สองในชานเมืองกรุงเทพมาเป็นค่าสร้างบ้านพักผ่อนที่เขาใหญ่
ภาวนาเป็นคำบาลีและสันสกฤตซึ่งมีความหมายทางพุทธศาสนาว่าการพัฒนาหรือการทำให้เกิดประสิทธิผล
ปกติจะใช้เชื่อมต่อกับคำอื่นเช่น จิตตะภาวนา คือการพัฒนาจิต เป็นต้น
บ้านภาวนาได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกิจวัตรประจำวันของครอบครัวเรา เช่น
การไหว้พระสวดมนต์ การเดินจงกรม การออกกำลังกาย (โยคะ/ไท้เก๊ก) อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะบรรยาย ทำสวนพผักปลอดสารพิษเป็นต้น
บ้านภาวนาจะเป็นสถานที่อยู่อาศัยสำหรับผมในบั้นปลายของชีวิต
ผมมีความสุขกับบ้านนี้มากเพราะอากาศดี วิวสวย ธรรมชาติสมบรูณ์
ครูบาอาจารย์สอนผมว่าเมื่อเราภาวนาในสถานที่สัปปายะ เราก็จะมีความสุข
จิตเราก็จะเป็นกุศลทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติธรรมของเรา
บ้านภาวนาจึงเป็นสถานที่ที่สับปายะสำหรับการภาวนาของเรา เรารู้สึกขอบคุณและดีใจที่ได้ปฏิบัติตามความฝันของเราและต้องการแบ่งปันสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีความสนใจเหมือนเรา
สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม
วันนี้คุณได้ที่พักและอาหารจากน้ำใจผู้อื่น และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ที่พักและอาหารฟรีบ้าง ขอเชิญคุณบริจาคตามกำลังศรัทธา อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุFor reservation, please contact:
คุณหมี 08.646.3590 | v.songjarone@gmail.com
คุณโด่ 09.3124.5945 | c.songjaroen@gmail.com