Bhavana Homestays บ้านภาวนา

30 August 2010

เบื้องหลังบ้านภาวนา

เบื่องหลังบ้านภาวนา

ในช่วงระหว่างปลายปี 2540 ถึงต้นปี 2541 ได้เกิดปรากฏการณ์วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในประเทศไทย อันเกิดจากการไม่มีวินัยในการเงินของทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ทำความเสียหายให้ทั้งกับระบบเศษฐกิจของประเทศไทยตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้  เหตุการณ์นี้ทำให้ผมสำนึกและฉุกคิดได้ว่าผมควรที่จะศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ มีความรู้ความสามารถในการทำมาหากิน มีชีวิตอยู่รอดอย่างสุขสบายในโลกไร้พรมแดนที่ซับซ้อนแข่งขันสูง ในปีเดียวกันนั้นผมจึงเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสำหรับนักบริหาร และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับความรู้ทางด้านธุรกิจเพื่อที่จะได้พัฒณาตนเองให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ต้องการขององค์กร ตลอดจนภาคธุรกิจที่ผมทำงานอยุ่ ผมสำเร็จการศึกษาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตในปี 2543 หลังจากนั้นผมได้เข้าทำงานพร้อมข้อเสนอที่ดีจากบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ  จากตำแหน่งหน้าที่การงานและผลงานดีของผมทำให้ผมเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการธุรกิจที่ผมทำอยู่ แต่ตัวผมมิได้หลงระเริงและยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคมเพราะลึกๆแล้วผมทราบมาตลอดว่าทุกอย่างไม่เที่ยง และผมก็ไม่ได้มีความสุขมากมายเท่าไหร่นัก เพราะผมต้องทำงานหนักและไม่มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวมากนัก

การที่ผมเป็นคนต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกอย่างในทุกด้าน (Perfectionist)  ทำให้ผมเป็นคนเจ้าระเบียบ การวางแผนอย่างรอบคอบ และให้ความคาดหวังกับความสำเร็จสูง ทำให้ผมมีความลำบากในการร่วมงานและใช้ชีวิตกับคนรอบข้างที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่วางแผน แต่ผมก็จะไม่แสดงความไม่พอใจออกมาแต่จะเก็บไว้ในใจตลอด ซึ่งบ่อยครั้งทำให้ผมเกิดความเครียดจากการทำงาน ในปลายปี 2543 ภรรยาของผมซึ่งเป็นคาทอลิกได้ขอร้องแกมบังคับให้ผมเข้าอบรมปฏิบัติธรรมในหลังสูตรพัฒนาจิตเป็นเวลา 8 วัน 7 คืน ซึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าปฏิบัติธรรมมาก่อน เธอบอกผมซึ่งเป็นชาวพุทธโดยกำเนิด ว่าการทำบุญรักษาศีลอย่างเดียวไม่พอต้องเจริญสติด้วย ผมยอมไปเพราะกลัวเสียหน้าการเป็นชาวพุทธประกอบกับได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีของเธอหลังจากการปฏิบัติธรรมของเธอ เธอใจเย็นและมีเหตุผลมากขึ้นทำให้ครอบครัวมีความสุขขึ้น  หลังจากการอบรมในครั้งนี้ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเช่นกัน ทัศนะคติในการใช้ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี ผมเลิกสูบบุหรี่และเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผมตั้งสัจจะว่าจะดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทและรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด ผมได้เรียนรู้และเข้าใจธรรมะหรือกฏของธรรมชาติแห่งความเป็นจริงในโลกนี้หลายประการ เช่น กฏแห่งกรรมคือการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว การกระทำของเราทุกอย่างล้วนกระทบต่อกายและใจและกระทบโลกด้วย และกฏแห่งการเปลี่ยนแปลง คือธรรมทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยงเพราะเกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นทุกข์เพราะถูกบีบคั้น ไม่ใช่ตัวตนเพราะบังคับไม่ได้ หลังจากนั้นผมโชคดีได้มีโอกาสศึกษาธรรมะกับครูบาอาจารย์ที่สอนกรรมฐานที่ตรงกับจริตของผมทำให้ผมสามารถเจริญสตินอกรูปแบบในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติและมีความสุขในการอยุ่กับทุกข์ ยอมรับความไม่เที่ยง ความเปลี่ยนแปลงอย่างมีความสุข เข้าใจว่าทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเป็นของชั่วคราวและยึดถือไม่ได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมตั้งใจเพียรเจริญสติภาวนา เพื่อที่จะให้จิตเกิดปัญญาที่แท้จริงจนจิตเห็นและยอมรับความเป็นจริงของธรรมชาติโดยสดุดี ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับการเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่เนืองๆ มากกว่าการมีความสุขจากความสำเร็จในหน้าที่การทำงาน ผมตระหนักดีว่าปริญญามหาบัณฑิตช่วยให้ผมได้ทำงานที่ดี มีรายได้สูงแต่ไม่ได้สอนให้ผมมีศิลปะในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความทุกข์และความเปลี่ยนแปลง ส่วนการศึกษาและการปฏิบัติธรรมช่วยให้ผมรู้เท่าทันและอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข ผมปฏิญาณตนว่าจะตั้งใจเพียรภาวนาปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชาและอาจาริยบูชาต่อพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ไปตลอดชีวิต

ในปี 2550 ครอบครัวเราได้เจอกับบททดสอบที่สำคัญ ภรรยาของผมไม่สบายต้องเข้ารับการผ่าตัดทำให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ผมประหลาดใจและยินดีมากที่เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการทำใจและยอมรับความทุกข์ทางกาย แต่ทางใจนั้นเธอมีสติอยู่กับความทุกข์ทางกายอย่างสงบ เธอยอมรับว่าเธอโชคดีมากๆที่ได้รับการศึกษาและปฏิบัติธรรมมาก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้เรามั่นใจในการปฏิบัติธรรมมากขึ้นนอกจากนั้นเราได้เรียนรู้ว่าโรคต่างๆโดยเฉพาะโรคมะเร็งเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องของเราโดยเฉพาะชาวเมืองใหญ่ๆ เราทำร้ายตัวเองจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในเมือง จากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ จากการมุ่งแต่ความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน แต่เราลืมให้ความสำคัญทางจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายนี้ พี่ชายของภรรยาผมได้มอบที่ดินผืนสวยบนเนินเขา ตรงกันข้ามกับเขาใหญ่ให้เราได้สร้างบ้านเอาไว้พักผ่อนในวันหยุด ที่ดินผืนนี้อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นมรดกโลก และองค์การนาซ่าได้จัดอันดับว่าเป็นแหล่งที่มีโอโซนหนาแน่นเป็นอันดับ 7 ของโลก

ต่อมาในปี 2551ได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ที่เกิดจากธุรกิจซับไพร์มที่สหรัฐอเมริกา ประกอบกับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรเสื้อเหลือง และการปิดสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนธันวาคม ทำให้เศรษฐกิจในประเทศไทยตกต่ำและกระทบกับภาคธุรกิจอย่างที่สุด บริษัทที่ผมทำงานอยู่ได้ขอให้ผมออกจากงานโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผมประหลาดใจ ผิดหวังและเสียใจมากนักเพราะผมทราบดีว่าทุกอย่างไม่เที่ยง และผมก็ต้องออกจากงานอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว ผมโชคดีมากที่มีโอกาสเรียนรู้ ศึกษาและเข้าใจธรรมะ เข้าใจความจริงของธรรมชาติ ทำให้ผมยอมรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติและสงบ ในเย็นวันเดียวกันนั้นภรรยาผมโทรมาบอกผมว่าที่ทำงานเธอก็มีปัญหาเช่นกันเจ้านายเธอให้เธอเลือกระหว่างเปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนงาน (คือการออกไปหางานใหม่เอง) ทำให้ผมอดขำและหัวเราะออกมาไม่ได้ ผมบอกเธอว่าเธอโชคดีมากที่ยังมีโอกาสได้เลือกส่วนผมไม่มีตัวเลือกเพราะต้องออกสถานเดียว ทำให้เราสองคนหัวเราะกันใหญ่จากการเห็นความไม่เที่ยงท้ามกลางความประหลาดใจของคนที่รู้ข่าวนี้ ทุกคนเสียใจกับเราแต่ผมกลับคิดมันในแง่บวกว่า ดีซะอีกที่ผมตกงานจะได้มีเวลาสร้างบ้านตากอากาศที่เขาใหญ่ ผมจึงตัดสินใจใช้เงินจากการขายบ้านที่สองในชานเมืองกรุงเทพมาเป็นค่าสร้างบ้านพักผ่อนที่เขาใหญ่

ภาวนาเป็นคำบาลีและสันสกฤตซึ่งมีความหมายทางพุทธศาสนาว่าการพัฒนาหรือการทำให้เกิดประสิทธิผล ปกติจะใช้เชื่อมต่อกับคำอื่นเช่น จิตตะภาวนา คือการพัฒนาจิต เป็นต้น  บ้านภาวนาได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกิจวัตรประจำวันของครอบครัวเรา เช่น การไหว้พระสวดมนต์ การเดินจงกรม การออกกำลังกาย (โยคะ/ไท้เก๊ก) อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะบรรยาย ทำสวนพผักปลอดสารพิษเป็นต้น บ้านภาวนาจะเป็นสถานที่อยู่อาศัยสำหรับผมในบั้นปลายของชีวิต ผมมีความสุขกับบ้านนี้มากเพราะอากาศดี วิวสวย ธรรมชาติสมบรูณ์ ครูบาอาจารย์สอนผมว่าเมื่อเราภาวนาในสถานที่สัปปายะ เราก็จะมีความสุข จิตเราก็จะเป็นกุศลทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติธรรมของเรา บ้านภาวนาจึงเป็นสถานที่ที่สับปายะสำหรับการภาวนาของเรา เรารู้สึกขอบคุณและดีใจที่ได้ปฏิบัติตามความฝันของเราและต้องการแบ่งปันสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีความสนใจเหมือนเรา

สำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม
วันนี้คุณได้ที่พักและอาหารจากน้ำใจผู้อื่น และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ที่พักและอาหารฟรีบ้าง ขอเชิญคุณบริจาคตามกำลังศรัทธา อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

For reservation, please contact:
คุณหมี 08.646.3590  | v.songjarone@gmail.com
คุณโด่  09.3124.5945 | c.songjaroen@gmail.com
            


No comments:

Post a Comment